หน้าเว็บ
▼
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ทะเลหมอกที่ภูทอก
จริง ๆ แล้วบันทึกนี้น่าจะเขียนเป็นบันทึกแรก จากทีไปเชียงคาน ๓ วัน ๒ คืน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปถึงเชียงคานตอนเช้ามืด จะเลยขึ้นไปดูทะเลหมอกที่ภูทอกเป็นที่แรก จากนั้นก็เข้าเชียงคานทันเวลาใส่บาตรตอนเช้าพอดี วันนี้เป็นวันที่สามที่เชียงคานก็ขอขึ้นไปชมทะเลหมอก วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน แล้วคงกลับไปชมงานประเพณีออกพรรษาของเชียงคาน...
วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เลยไป..ลาว
จากวันแรกเราใช้จักรยานถีบชมตัวเมือง เชียงคาน และบริเวณรอบเมืองที่ไม่ไกลมากนัก ในวันที่สองนี้เราก็ข้ามไปฝั่งลาวเพื่อชมเมืองสานะคาม หรือ เชียงคานโบราณ ที่เป็นเมืองหน้าด่านของเมืองหลวงพระบาง เราใช้ใบผ่านแดนทำที่ที่ว่าการ อ.เชียงคาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับด่านตรวจคนเข้าเมืองและท่าเรือที่จะข้ามฝาก เรือเที่ยวแรกออกเวลา ๐๘๓๐ และเที่ยวสุดท้ายจะกลับฝั่งไทยเวลา ๑๖๐๐ ค่าเรือคนละ ๕๐ บาท นอกเวลาจะต้องเช่าเหมาเที่ยวละประมาณ ๒๕๐ บาท สำหรับการทำใบผ่านแดนใช้บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมกับเงินคนละ ๔๐ บาท ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีก็เรียบร้อย เมือข้ามไปขึ้นฝั่งลาวแล้วก็จะเสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ ๔๐ บาท..พอด่านเปิดเราก็ข้ามฟากไปกับเรือเที่ยวแรกครับ เพราะเราทำใบผ่านแดนตั้งแต่ตอนบ่ายเมื่อวานนี้เรียบร้อยแล้ว...
( คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
เราใช้บริการของรถรับสามล้อสกายแลป พาไปไหว้พระ ๗ วัด พร้อมทั้งแวะชมตลาดแขวงสานะคาม กับบ้านปากมี้ ก่อนที่จะเดินทางกลับข้ามฟากภายในเวลา ๑๕๐๐
วัดแรกคือวัดใหญ่ผาหด พระประธานพระพุทธรูปปางถวายเนตร วันนี้ตรงกับช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่วัดมีการทำบุญชาวบ้านมาจัดกองบุญ ถวายทาน
วันนี้ตรงกับช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่วัดมีการทำบุญชาวบ้านมาจัดกองบุญ ถวายทาน
...พระอาจารย์กำลังอนุโมทนาญาติโยมที่มาร่วมงานบุญ ว่ากันว่าหลวงพ่อท่านมาจากชัยภูมิ และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าตากแดด แม่ชีบอกว่าเคยไปอยู่วัดที่เมืองไทยมา ๑๗ ปี..
ญาติธรรมที่มาเปิดประตูพระอุโบสถ ให้เข้าไปไหว้พระประธานพระพุทธรูปปางจงกรมแก้ว..พร้อมกับบอกว่า ลูกสาวคนหนึ่งก็ไปแต่งงานและอยู่ที่ประเทศไทย..
จากวัดใหญ่ผาหด ก็แวะไปที่ ดอนหอ ป่าศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่เผาพระศพกษัตริย์ล้านช้างพระองค์หนึ่งที่ลี้ภัยสงครามมาอยู่ที่สานะคาม ชาวลาวถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หากไม่มีกิจธุระอะไรก็จะไม่เข้ามา ณ ที่แห่งนี้
เราเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออก วัดสังคะเทนพัฒนาราม
...หลังจากเสี่ยงเซียมซี ได้ใบที่ ๓ เราก็เดินทางต่อไป บ้านปากมี้
....ผ่านบ้านปากมี้ แวะคุยกับเพื่อนบ้าน " ไม่ค่อยได้ข้ามไปบ่อยนัก ส่วนใหญ่คนที่นี่จะข้ามไปเวลาเจ็บป่วยเพื่อไปหาหมอที่ รพ.เชียงคาน หรือไม่ก็ รพ.จังหวัดเลย "
แล้วต่อไปไหว้พระที่บ้านปากมี้ ซึ่งจะมีสองวัดชาวบ้านเรียกวัดปากมี้บน และวัดปากมี้ล่าง
วัดสีบุนเรือง อยู่ริมฝั่งน้ำโขง หากมองตามลำน้ำโขงไปทางทิศตะวันออก จะเห็นคุ้งน้ำ แก่งคุดคู้
วัดโพธิสัมพอน บ้านปากมี้
ออกจากวัดโพธิสัมพอน เราย้อนกลับเข้าสานะคาม ผ่านตามถนนสายหลักผ่านตลาดและศูนย์ราชการ มีโรงเรียนมัธยม สำนักงานเกษตร และโรงพยาบาล ฯลฯ
....ตลาดสานะคาม...
เราจะไปไหว้พระอีก ๓ วัดทางทิศตะวันตก คือวัดแสน วัดสีพูมวราราม และวัดป่าตากแดด
วัดแสน พระธาตุ ที่ว่ากันว่าสร้างครอบบริเวณที่เห็นแสงสว่างพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน บางกระแสว่าบรรจุทรัพย์สินที่ตั้งใจจะนำไปสร้างพระธาตุพนม แต่พระธาตุพนมสร้างเสร็จก่อนจึงรวบรวมสร้างไว้ที่นี่
วัดสีพูมวราราม หรือวัดท่าด่าน บริเวณด้านหน้าของวัดที่ติดแม่น้ำโขงในช่วงที่มีสถานการณ์เป็นที่ตั้งของค่ายทหาร
วัดป่าตากแดดเป็นวัดสุดท้ายที่เราเข้าไปไหว้พระ ก่อนที่จะ้เดินทางกลับเชียงคาน ...
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ ไปเชียงคานอย่าลืมแวะไปไหว้พระที่ สานะคามด้วยนะครับ
วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ไปเลย...เชียงคาน
หลังจากกลับจากสมุยได้สองวัน ลูกสาวบอกว่าช่วงออกพรรษาอาจจะต้องไปเชียงคาน เนื่องจากวางแผนกับเพื่อนไว้แล้ว แต่เนื่องจากเพื่อนคนหนึ่งเดินทางไปไม่ได้ จะยกเลิกก็จะยุ่งยากเพราะจ่ายค่าจองที่พัก ค่ารถทัวร์ไปเรียบร้อยแล้ว จึงต้องตกลงใจไปกับลูกสาวว่า "..ไปเลย..เชียงคาน.."
...เรามีเวลาสามวันสองคืนที่เชียงคาน ออกเดินทางเย็นวันศุกร์ถึงเชียงคานแต่เช้ามืดทันใส่บาตรตอนเช้า วันแรกนี่คงจะชมในเมืองเชียงคาน วันที่สองตั้งใจว่าจะข้ามฝั่งโขงไปชมเมืองเชียงคานโบราณ(สานะคาม)ฝั่งลาว ส่วนวันที่สามไปชมรอบ ๆ เมืองเชียงคาน พร้อมกับดูแข่งเรือเทศกาลออกพรรษา ครับ...
ตามประวัติศาสตร์ที่เล่าสืบต่อกันมา เมืองเชียงคานเดิมตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตั้งโดย ขุนคาน โอรสของ ขุนคัว เจ้าเมืองแห่งอาณาจักรล้านช้าง ถือว่าเชียงคานเป็นเมืองหน้า่ด่านของหลวงพระบาง ต่อมาอาณาจักรล้านช้างแบ่งออกเป็นอาณาจักรหลวงพระบาง และอาณาจักรเวียงจันทร์ เมืองหลวงพระบางได้สร้างเมืองหน้าด่านใหม่ที่เมืองปากเหือง แทนเมืองเชียงคาน(สานะคาม)เดิม...
(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
....ถึงเชียงคานแต่เช้ามืด.....
...หลังจากใส่บาตรแล้ว...สาย สาย ก็ใช้จักรยาน..ชมเมืองเชียงคาน...ครับ..
....เริ่มจากทางด้านตะวันออก เลาะริมโขง ไปสุดทางที่แก่งคุดคู้....
..ไหว้ศาลเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่สถานีเรือเชียงคาน..
......บนเส้นทางนี้ถือโอกาสไปไหว้พระสองวัดคือ วัดเชียงคาน และวัดท่าแขก..
...สุดเส้นทางนี้คือ แก่งคุดคู้ ....
.. หลังจากกลับจากแก่งคุดคู้ ช่วงบ่ายจะแวะไหว้พระตามวัดในคุ้มต่าง ๆ ของเชียงคาน ครับ..
เริ่มจากคุ้มวัดท่าคก..อยู่ติดริมฝั่งโขงบนถนนคนเดิน ใกล้ท่าเรือข้ามไปลาว..
จากนั้นไปที่ วัดป่าใต้ ...
วัดมหาธาตุ อยู่คนละฟากถนนกับวัดป่าใต้
วัดป่ากลาง ...ใกล้กับวัดมหาธาตุ
...วัดศรีคูณเมือง อยู่ติดริมฝั่งโขง บนถนนคนเดิน..
..เลยต่อจากวัดศรีคูณเมืองไป...เป็นวัดโพนชัย..
ยังเหลืออีกสองวัดอยู่ด้านบนห่างจากริมโขงคือวัด ศรีพนมมาศ และวัดสันติวนาราม..
...วันแรกเราใช้จักรยาน...ระยะทางไม่ไกลมากนัก..แบบ สบาย สบาย ครับ...พรุ่งนี้เราจะข้ามฝั่งไปชมเมืองเชียงคานเก่า...ครับ...