หน้าเว็บ
▼
วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๔๗)..วีรบุรุษแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ..
อนุสาวรีย์ นายดอก นายทองแก้ว วีรบุรุษ
แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ
แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ
(คลิกบนแผนที่เพื่อดูภาพใหญ่ขึ้น)
...ก็คงจะเป็นบันทึกสุดท้ายเกี่ยวกับวันหยุดยาวที่ผ่านมา เดินทางเที่ยวไปใกล้ ๆ บ้านเป็นวงกลมเล็ก ๆ..จากอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และสุพรรณบุรี ใช้เวลาเพียงหนึ่งวัน นอกจากได้แวะสักการะอนุสาวรีย์วีรชนผู้กล้าหาญในอดีต ก็ได้ไหว้พระเจ็ดวัดด้วยกัน..ครับ..บ้านเรา แสนสุขใจ...
วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๔๖)..บ้านเกิดพันท้ายนรสิงห์...
ขอแนะนำสถานที่ที่เป็นอนุสรณ์สำหรับวีรชนคนกล้าที่มีหัวใจเด็ดเดี่ยวกล้าหาญอีกท่านหนึ่งคือ พันท้ายนรสิงห์ ..บ้านเกิดของท่านอยู่ที่ ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ครับ ถ้าท่านไปใหว้หลวงพ่อวัดมงคลบพิตร ที่ในเกาะเมืองอยุธยาแล้ว สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้ระยะทางเพียง ๒๖ กม.ตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๙และ ๓๕๐๑ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ครับ.....
.........................................
เมื่อ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ได้มีโอกาสไปสักการะวีรชนที่มีความซื่อสัตย์....ศาลพันท้ายนรสิงห์ โคกขาม สมุทรสาคร...
เมื่อ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ได้มีโอกาสไปสักการะวีรชนที่มีความซื่อสัตย์....ศาลพันท้ายนรสิงห์ โคกขาม สมุทรสาคร...
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๔๕)..คนดีไม่มีวันตาย..ขุนรองปลัดชู...
บนเส้นทางจากบ้านที่ อ.อุทัย อยุธยา ไปอนุสาวรีย์วีระชนค่ายบางระจัน บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งการสู้รบสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้มีโอกาสแวะสักการะ.... อนุสาวรีย์วีรชนคนกล้าแห่งบ้านสี่ร้อย วิเศษชัยชาญ "ขุนรองปลัดชู" ซึ่งตั้งอยู่ ณ วัดสี่ร้อย เทศบาลบางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง...หากท่านผ่านมาแถวนี้อย่าลืมแวะชมนะครับ...
...ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๔๔)..บางระจัน...
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๔๓)..วัดสี่ร้อย...
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสู่กันฟัง(๓๘)..Success of a farmer..
จาก FW mail...
Success of a farmer
View more presentations from taweesak supanan
ขอบคุณผู้สร้างสรรค์...และทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เล่าสูกันฟัง(๓๑) ...ชีวิตของนกอินทรี..
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
จาก FW mail.
Eagle story
View more presentations from taweesak supanan
(คลิกที่ X มุมล่างขวามือ เพื่อดูภาพใหญ่ขี้น)
(คลิกที่ X มุมล่างขวามือ เพื่อดูภาพใหญ่ขี้น)
๑.นกอินทรีมีชีวิตที่ยืนยาวที่สุดในบรรดา สัตว์ปีก
มันสามารถมีชีวิตได้นานถีง 70
ปี
แต่ก่อนที่จะอยู่ได้นานถึงป่านนั้น ...
นกอินทรีต้องมีการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของมันเมื่ออายุได้ 40 ปี
๒.ตอนนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของมันจะไม่สามารถจับสัตว์เป็นอาหารได้อีก จงอยปากที่แหลมคมเริ่มโค้งงอ
๓.เนื่องจากมันอายุถึง 40 ปีแล้วจึงมีปีกที่หนาและหนัก ขนที่ยาวรุงรังจะไปรวมกันที่อกของมัน ทำให้มันบินได้ลำบากมากขึ้น .....
๔.และเมื่อนั้น มันจะมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือตายไปซะ หรือจะตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไป ... ซึ่งต้องเผชิญความเจ็บปวดในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นระยะเวลายาวนานถึง 150 วัน
๕.ในขั้นตอนนี้มันจะต้องบินขึ้นไปบนยอดภูเขาสูง และอยู่ที่รังของมัน .. มันจะต้องใช้จงอยปากที่โค้งทื่อของมันจิกเคาะกับก้อนหิน ครั้งแล้วครั้งเล่า .. จนกระทั่งจงอยหลุดออกมา ... หลังจากนั้นมันจะต้องรอให้จงอยปากอันใหม่งอกขึ้นมา
๖.และพอจงอยปากงอกออกมาแล้ว ที่นี้ก็ถึงตากรงเล็บที่งอกขึ้นมาใหม่ต่อจากจงอยปาก เมื่อกรงเล็บใหม่ที่งอกขึ้นมาสมบูรณ์แล้ว มันก็จะเริ่มจิกถอนขนที่ดกหนาแล้วผลัดขนใหม่ ....
๗.หลังจาก 5 เดือนหรือ 150 วันผ่านไปขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง ก็จะเสร็จสมบูรณ์ นกอินทรีก็จะบินสูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับร้องเสียงดังก้องสะท้านฟ้า คล้ายดังเป็นการประกาศก้องว่า ตูข้ากำเนิดใหม่แล้ว และจะมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีก 30 ปี .... ( ถ้าไม่ถูกยิงหรือเจออุบัติเหตุตายไปก่อน )
๘.จากชีวิตของมันทำให้เราเรียนรู้ว่า ... หลายๆ ครั้ง ... เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เราต้องมีขั้นตอน - กระบวนการเปลี่ยนแปลงตนเอง
๙.บางครั้งเราต้องลืมอดีตที่ขมขื่น นิสัยเก่า ๆที่เคยชิน ความผิดหวังต่างๆ ดังนั้น เราจำเป็นต้องปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากนิสัย หรือสภาพแวดล้อมเดิมๆ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างราบรื่นในปัจจุบัน
๑๐.และเรารู้ว่า ตอนนี้คุณกำลังผลัดขนอยู่ .... เพราะคุณไม่ใช่นกกระจอก แต่คุณเป็นนกอินทรีย์ที่ผลัดขนแล้วต่างหาก รอวันที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแห่งอิสรภาพอย่างห้าวหาญ วันนั้น .. ไม่นานเกินรอ .... อย่าท้อถอย เพราะคุณเป็นยิ่งกว่านก ( อินทรีย์ )...
๒.ตอนนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นของมันจะไม่สามารถจับสัตว์เป็นอาหารได้อีก จงอยปากที่แหลมคมเริ่มโค้งงอ
๓.เนื่องจากมันอายุถึง 40 ปีแล้วจึงมีปีกที่หนาและหนัก ขนที่ยาวรุงรังจะไปรวมกันที่อกของมัน ทำให้มันบินได้ลำบากมากขึ้น .....
๔.และเมื่อนั้น มันจะมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือตายไปซะ หรือจะตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไป ... ซึ่งต้องเผชิญความเจ็บปวดในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงชีวิต เป็นระยะเวลายาวนานถึง 150 วัน
๕.ในขั้นตอนนี้มันจะต้องบินขึ้นไปบนยอดภูเขาสูง และอยู่ที่รังของมัน .. มันจะต้องใช้จงอยปากที่โค้งทื่อของมันจิกเคาะกับก้อนหิน ครั้งแล้วครั้งเล่า .. จนกระทั่งจงอยหลุดออกมา ... หลังจากนั้นมันจะต้องรอให้จงอยปากอันใหม่งอกขึ้นมา
๖.และพอจงอยปากงอกออกมาแล้ว ที่นี้ก็ถึงตากรงเล็บที่งอกขึ้นมาใหม่ต่อจากจงอยปาก เมื่อกรงเล็บใหม่ที่งอกขึ้นมาสมบูรณ์แล้ว มันก็จะเริ่มจิกถอนขนที่ดกหนาแล้วผลัดขนใหม่ ....
๗.หลังจาก 5 เดือนหรือ 150 วันผ่านไปขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง ก็จะเสร็จสมบูรณ์ นกอินทรีก็จะบินสูงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง พร้อมกับร้องเสียงดังก้องสะท้านฟ้า คล้ายดังเป็นการประกาศก้องว่า ตูข้ากำเนิดใหม่แล้ว และจะมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีก 30 ปี .... ( ถ้าไม่ถูกยิงหรือเจออุบัติเหตุตายไปก่อน )
๘.จากชีวิตของมันทำให้เราเรียนรู้ว่า ... หลายๆ ครั้ง ... เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เราต้องมีขั้นตอน - กระบวนการเปลี่ยนแปลงตนเอง
๙.บางครั้งเราต้องลืมอดีตที่ขมขื่น นิสัยเก่า ๆที่เคยชิน ความผิดหวังต่างๆ ดังนั้น เราจำเป็นต้องปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากนิสัย หรือสภาพแวดล้อมเดิมๆ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างราบรื่นในปัจจุบัน
๑๐.และเรารู้ว่า ตอนนี้คุณกำลังผลัดขนอยู่ .... เพราะคุณไม่ใช่นกกระจอก แต่คุณเป็นนกอินทรีย์ที่ผลัดขนแล้วต่างหาก รอวันที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแห่งอิสรภาพอย่างห้าวหาญ วันนั้น .. ไม่นานเกินรอ .... อย่าท้อถอย เพราะคุณเป็นยิ่งกว่านก ( อินทรีย์ )...
*******
ขอขอบคุณ ผู้เขียน / ผู้ส่งต่อ เรื่องราวดี ๆ เพือสังคม....
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ..