วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สวนดุสิต(๒)

(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
          
      ดูเหมือนว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาท่องเที่ยวบ้านเรามากนะครับ  วันที่เข้าชมพระที่นั่งวิมานเมฆเจอแต่ทัวร์จีน ไกด์จีนนี่เก่งมากน่าจะรู้ประวัติศาสตร์ไทยมากกว่าผมครับ ...หลังชมพระที่นั่งวิมานเมฆแล้วก็เข้าชมพระตำหนักต่าง ๆ ที่จัดแสดงศิลปวัตถุตามลำดับซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน.. ขอเริ่มจากตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางค์  จัดแสดงนาฬืกาโบราณ  


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)
ภาพภายในตำหนักจากหนังสือพระที่นั่งวิมานเมฆ
พิมพ์ครั้งที่ ๕ สิงหหาคม๒๕๔๕


      จากนั้นเป็นตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรุณวดี จัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙



       ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ นี้ จัดแสดงที่ ตำหนักพระเจ้าบรมเธอ พระองค์เจ้า บุษบันบัวผัน อีกแห่งหนึ่ง..


      ระหว่างตำหนักพระองค์เจ้าหญิงบุษบันบัวผันไปตำหนัก พระองค์เจ้าอรุณวดี ที่แสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ จะมีเก๋งมังกรแปดเหลี่ยมประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม


       เดินต่อไปชมศิลปวัฒนธรรมบ้านเชียง ณ ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงเสรฐสุดา


  ตำหนักพระบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา จัดแสดงพระภูษาโบราณ




     ตำหนักสวนฝรั่งกังไส ของพระราชชายาดารารัศมี  จัดแสดงเครื่องกระเบื้องลายครามชนิดหนึ่งที่ฝรั่งทำเลียนแบบลายครามของจีน และเป็นที่มาของชื่อตำหนัก สวนฝรั่งกังไส  และจัดแสดงศิลปวัตถุสำคัญคือเครื่องใช้ในราชพิธีและเครื่องประกอบอิสริยยศ  และยังมีภาพสีน้ำมันและพระรูปพระบรมวงศานุวงศ์ 




        สำหรับตำหนักหอ จัดแสดงศิลปส่วนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ไม่อนุญาตให้ขึ้นชมอยู่ในระหว่างปรับปรุง   ตำหนักหอนี้ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างพระราชทานให้กับพระราชโอรส คือเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์เมื่อทรงอภิเษกสมรสกับหม่อเจ้าสมประสงค์



...ชมหมู่พระตำหนักในบริเวณเดียวกับพระที่นั่งวิมานเมฆ หมดแล้ว เราก็เดินย้อนกลับไปทางเ่ก่า  เพื่อชมพระที่นั่งอภิเศกดุสิต  และพระที่นั่งอนันตสมาคมที่กำลังจัดแสดงนิทรรศการศิลป์แผ่นดินครั้งที่ ๖ ครับ...



    พระที่นั่งอภิเศกดุสิต เป็นพระที่นั่งโถงชั้นเดียวก่อสร้างในช่วงที่กำลังก่อสร้างพระที่นั่งวิมานเมฆ   รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นท้องพระโรง สำหรับวังสวนดุสิต ใช้เป็นที่ประชุมเสนาบดี และเป็นที่สำหรับพระราชทานเลี้ยงแก่พระบรมวงศานุวงศ์  ต่อมา เมื่อพระที่นั่งอนันตสมาคมสร้างเสร็จใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาแล้ว  พระที่นั่งอภิเศกดุสิตเคยใช้เป็นที่ทำการของสำนักเลขาธิการรัฐสภา    ปัจจุบันพระที่นั่งอภิเศกดุสิตอยู่ความปกครองของสำนักพระราชวัง


             พระที่นั่งอภิเศกดุสิตเป็นสถานที่จัดแสดงศิลปหัตถกรรมของมูลนิธิศิลปชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ


(ภาพจากหนังสือพระราชวังดุสิต)


    ออกจากพระที่นั่งอภิเศกดุสิตแล้วเราจะไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งมองเห็นอยู่ไม่ไกล หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าก็ได้ครับไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ...ผมเลือกที่จะเดินเพื่อเก็บภาพถ่ายไว้ครับ...






    พระที่นั่งอนันตสมาคม  รัชกาลที่ ๕ ทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อ ๑๑ พ.ย.๒๔๕๑ เนื่องในรัชมงคลสมัยที่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาครบ ๔๐ ปีบริบูรณ์ เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตใน พ.ศ.๒๔๕๓ การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ดำเนินการก่อสร้างต่อและสำเร็จบริบูรณ์ใน พ.ศ.๒๔๕๘ ใช้เวลาก่อสร้าง  ๘ ปี งบประมาณก่อสร้าง ๑๕ ล้านบาท


...สถานที่จัดแสดงนิทรรศการศิลป์แผ่นดิน...
(ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในพระที่นั่ง)
ภาพจากหนังสือพระราชวังดุสิต


....ฉากปักผ้าไหมน้อย เรื่องอิเหนา บนภาพความยาว ๙ เมตร สูง ๔ เมตร ใช้เวลา ๔ ปี..........


..ฉากไม้แกะสลักจากเรื่อง สังข์ทองและป่าหิมพานต์ ใช้เวลาประมาณ ๒ ปี..


  งานแสดงนิทรรศการ ศิลป์แผ่นดินครั้งที่ ๖ นี้ มีผลงานใหม่ ๙ ชิ้น ซึ่งจะหาดูที่ใหนไม่ได้เลยในโลกนี้ก็ว่าได้ครับ...


.....................


บัตรเข้าชมสวนดุสิต ราคา ๗๕ บาท
พระที่นั่งอนันตสมาคม ๑๕๐ บาท



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.artsofthekingdom.com/th/index.php  และหนังสือพระราชวังดุสิต 

วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สวนดุสิต(๑)

    เมื่อสองวันก่อนได้ไปชมนิทรรศการศิลป์แผ่นดินครั้งที่ ๖ ซึ่งจัดแสดงที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งเริ่มตั้งแต่ ๗ ธันวาคม ๕๕ เป็นต้นไป มีนักท่องเที่ยวไปชมกันมากโดยเฉพาะชาวจีน  ก่อนที่จะไปชมนิทรรศการ ฯ ก็ขอเข้าชม " สวนดุสิต " ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก่อนนะครับ..
    สวนดุสิต เดิมเป็นพื้นที่สวนและนา อยู่ระหว่างคลองผดุงกรุงเกษมจรดคลองสามเสน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อจัดสร้างเป็นอุทยานสถานและพระราชทานนามอุทยานสถานแห่งนี้ว่า " สวนดุสิต " พระที่นั่งองค์แรกที่สร้างขึ้นในสวนดุสิตคือ "พระที่นั่งวิมานเมฆ" พระที่นั่งไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนอกจากนี้พระองค์ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานที่ดินสำหรับสร้างพระตำหนักและตำหนัก สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน  ปัจจุบันได้เปิดจัดแสดงศิลปวัตถุให้เข้าชมเช่นเดียวกัน...
           เราเข้าทางเข้าด้านถนนอู่ทองในครับ..



(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)


หลังจากซื้อบัตรเข้าชมแล้วก็เริ่มชมสถานที่ต่าง ๆ ในสวนดุสิตกันเลยครับ..




จากพิพิธภัณฑ์สถานโรงช้างต้นก็ไปตามเส้นทาง เพื่อชมพระที่นั่ง และพระตำหนักต่าง ๆ 


ขอเริ่มที่พระที่นั่ง วิมานเมฆ พระที่นั่งไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก 


                องค์พระที่นั่งเป็นรูปอักษรตัวแอล แต่ละด้านยาว ๖๐ ม.สูง ๒๐ เมตร เป็นอาคาร ๓ ชั้น ส่วนที่ประทับซึ่งเรียกว่า"แปดเหลี่ยม" มี ๔ ชั้น มีห้องจัดแสดงรวม ๓๑ ห้อง เช่น ห้องบรรทม ท้องพระโรง ห้องสรง และห้องต่าง ๆ จัดแสดงศิลปวัตถุแยกตามประเภท เช่น เครื่องเงิน กระเบื้องลายคราม แก้วเจียระไน และห้องเครื่องงา เป็นต้น



(ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในพระที่นั่ง)



     หลังจากชมบนพระที่นั่งวิมานเมฆแล้ว ก็จะเข้าชมพระตำหนักต่าง ๆ ที่จัดแสดงศิลปวัตถุทีหาชมที่ใหนไม่ได้ต่อไป  . . ครับ  ...











วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โลหะปราสาท


(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)








ทางขึ้นโลหะปราสาท



ที่อ่านหนังสือภายในระเบียงโลหะปราสาทชั้นที่ ๒


ภาพจำลองโลหะปราสาท




ภูเขาทอง มองจากโลหะปราสาท


สะพานพระราม ๘  มองจากโลหะปราสาท


เสาชิงช้า และวัดสุทัศน์ มองจากโลหะปราสาท


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ