วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทะเลหมอกที่ภูทอก


 จริง ๆ แล้วบันทึกนี้น่าจะเขียนเป็นบันทึกแรก จากทีไปเชียงคาน ๓ วัน ๒ คืน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปถึงเชียงคานตอนเช้ามืด จะเลยขึ้นไปดูทะเลหมอกที่ภูทอกเป็นที่แรก จากนั้นก็เข้าเชียงคานทันเวลาใส่บาตรตอนเช้าพอดี วันนี้เป็นวันที่สามที่เชียงคานก็ขอขึ้นไปชมทะเลหมอก วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน แล้วคงกลับไปชมงานประเพณีออกพรรษาของเชียงคาน...   
          เราออกเดินทางไปภูทอกด้วยบริการรถสกายแลปลุงพจน์ พี่ชายของป้าจ๊อดเจ้าของเฮือนดาวเรือง ประมาณตีห้าครึ่ง ระยะทางประมาณ ๘ กม.ราวเกือบหกโมงเช้าก็ถึงตีนภู นักท่องเที่ยวจะต้องใช้บริการรถสองแถวของ อบต.คนละ ๒๕ บาท 


จุดชมวิวทะเลหมอก ภูทอก อยู่ในบริเวณที่ตั้งของสถานสื่อสารของบริษัททีโอที....

ประมาณหกโมงเช้าพระอาทิตยขึ้นแล้ว ก็ขึ้นบริการรถสองแถวลงจากภูทอก..

เราเดินทางต่อไปเพื่อไปไหว้พระพุทธบาท ที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน..รถสามล้อสกายแลปต้องรออยู่ที่ตีนภูเช่นเดียวกัน ส่วนรถยนต์สามารถขับขึ้นไปได้ครับ..หรือหากมีเวลาจะเดินขึ้นไปก็สามารถทำได้..มีรถบริการรับส่งตามเบอร์โทรที่ติดไว้ที่ต้นไม้ข้างถนน...



หลังจากไหว้พระพุทธบาทแล้ว ก็กลับเข้าชมแข่งเรือ งานประเพณีออกพรรษาที่ริมโขง...

ถนนคนเดินมีทุกวันในช่วงค่ำ..

นอกจากถนนคนเดิน แล้วยังมีทางเดินเท้าริมโขง ให้ได้เดินชมแม่น้ำโขงหรือนั่งทานอาหารชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นด้วยครับ

....

แล้วก็ได้เวลาจากลาเชียงคาน...ลาก่อนเชียงคาน...

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ...


วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เลยไป..ลาว


จากวันแรกเราใช้จักรยานถีบชมตัวเมือง เชียงคาน  และบริเวณรอบเมืองที่ไม่ไกลมากนัก  ในวันที่สองนี้เราก็ข้ามไปฝั่งลาวเพื่อชมเมืองสานะคาม หรือ เชียงคานโบราณ ที่เป็นเมืองหน้าด่านของเมืองหลวงพระบาง เราใช้ใบผ่านแดนทำที่ที่ว่าการ อ.เชียงคาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับด่านตรวจคนเข้าเมืองและท่าเรือที่จะข้ามฝาก เรือเที่ยวแรกออกเวลา ๐๘๓๐ และเที่ยวสุดท้ายจะกลับฝั่งไทยเวลา ๑๖๐๐ ค่าเรือคนละ ๕๐ บาท นอกเวลาจะต้องเช่าเหมาเที่ยวละประมาณ ๒๕๐ บาท สำหรับการทำใบผ่านแดนใช้บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมกับเงินคนละ  ๔๐ บาท ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีก็เรียบร้อย เมือข้ามไปขึ้นฝั่งลาวแล้วก็จะเสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ ๔๐ บาท..พอด่านเปิดเราก็ข้ามฟากไปกับเรือเที่ยวแรกครับ เพราะเราทำใบผ่านแดนตั้งแต่ตอนบ่ายเมื่อวานนี้เรียบร้อยแล้ว...


                                                   ( คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

     เราใช้บริการของรถรับสามล้อสกายแลป พาไปไหว้พระ ๗ วัด พร้อมทั้งแวะชมตลาดแขวงสานะคาม กับบ้านปากมี้ ก่อนที่จะเดินทางกลับข้ามฟากภายในเวลา ๑๕๐๐ 

วัดแรกคือวัดใหญ่ผาหด  พระประธานพระพุทธรูปปางถวายเนตร  วันนี้ตรงกับช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่วัดมีการทำบุญชาวบ้านมาจัดกองบุญ ถวายทาน 

    วันนี้ตรงกับช่วงเทศกาลออกพรรษา ที่วัดมีการทำบุญชาวบ้านมาจัดกองบุญ ถวายทาน 

 ...พระอาจารย์กำลังอนุโมทนาญาติโยมที่มาร่วมงานบุญ ว่ากันว่าหลวงพ่อท่านมาจากชัยภูมิ และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าตากแดด  แม่ชีบอกว่าเคยไปอยู่วัดที่เมืองไทยมา ๑๗ ปี..

     ญาติธรรมที่มาเปิดประตูพระอุโบสถ ให้เข้าไปไหว้พระประธานพระพุทธรูปปางจงกรมแก้ว..พร้อมกับบอกว่า ลูกสาวคนหนึ่งก็ไปแต่งงานและอยู่ที่ประเทศไทย..

       จากวัดใหญ่ผาหด ก็แวะไปที่ ดอนหอ ป่าศักดิ์สิทธิ์ ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่เผาพระศพกษัตริย์ล้านช้างพระองค์หนึ่งที่ลี้ภัยสงครามมาอยู่ที่สานะคาม  ชาวลาวถือว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หากไม่มีกิจธุระอะไรก็จะไม่เข้ามา ณ ที่แห่งนี้

เราเดินทางต่อไปทางทิศตะวันออก วัดสังคะเทนพัฒนาราม

...หลังจากเสี่ยงเซียมซี ได้ใบที่ ๓ เราก็เดินทางต่อไป บ้านปากมี้

....ผ่านบ้านปากมี้ แวะคุยกับเพื่อนบ้าน " ไม่ค่อยได้ข้ามไปบ่อยนัก ส่วนใหญ่คนที่นี่จะข้ามไปเวลาเจ็บป่วยเพื่อไปหาหมอที่ รพ.เชียงคาน หรือไม่ก็ รพ.จังหวัดเลย "

แล้วต่อไปไหว้พระที่บ้านปากมี้ ซึ่งจะมีสองวัดชาวบ้านเรียกวัดปากมี้บน และวัดปากมี้ล่าง

วัดสีบุนเรือง อยู่ริมฝั่งน้ำโขง หากมองตามลำน้ำโขงไปทางทิศตะวันออก จะเห็นคุ้งน้ำ แก่งคุดคู้

วัดโพธิสัมพอน บ้านปากมี้

ออกจากวัดโพธิสัมพอน  เราย้อนกลับเข้าสานะคาม  ผ่านตามถนนสายหลักผ่านตลาดและศูนย์ราชการ มีโรงเรียนมัธยม สำนักงานเกษตร และโรงพยาบาล ฯลฯ 

....ตลาดสานะคาม...

เราจะไปไหว้พระอีก ๓ วัดทางทิศตะวันตก คือวัดแสน วัดสีพูมวราราม และวัดป่าตากแดด  

วัดแสน     พระธาตุ  ที่ว่ากันว่าสร้างครอบบริเวณที่เห็นแสงสว่างพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน บางกระแสว่าบรรจุทรัพย์สินที่ตั้งใจจะนำไปสร้างพระธาตุพนม  แต่พระธาตุพนมสร้างเสร็จก่อนจึงรวบรวมสร้างไว้ที่นี่

วัดสีพูมวราราม หรือวัดท่าด่าน บริเวณด้านหน้าของวัดที่ติดแม่น้ำโขงในช่วงที่มีสถานการณ์เป็นที่ตั้งของค่ายทหาร 

วัดป่าตากแดดเป็นวัดสุดท้ายที่เราเข้าไปไหว้พระ ก่อนที่จะ้เดินทางกลับเชียงคาน  ...

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ ไปเชียงคานอย่าลืมแวะไปไหว้พระที่ สานะคามด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไปเลย...เชียงคาน


ลังจากกลับจากสมุยได้สองวัน  ลูกสาวบอกว่าช่วงออกพรรษาอาจจะต้องไปเชียงคาน เนื่องจากวางแผนกับเพื่อนไว้แล้ว แต่เนื่องจากเพื่อนคนหนึ่งเดินทางไปไม่ได้  จะยกเลิกก็จะยุ่งยากเพราะจ่ายค่าจองที่พัก ค่ารถทัวร์ไปเรียบร้อยแล้ว  จึงต้องตกลงใจไปกับลูกสาวว่า "..ไปเลย..เชียงคาน.."
...เรามีเวลาสามวันสองคืนที่เชียงคาน  ออกเดินทางเย็นวันศุกร์ถึงเชียงคานแต่เช้ามืดทันใส่บาตรตอนเช้า   วันแรกนี่คงจะชมในเมืองเชียงคาน  วันที่สองตั้งใจว่าจะข้ามฝั่งโขงไปชมเมืองเชียงคานโบราณ(สานะคาม)ฝั่งลาว ส่วนวันที่สามไปชมรอบ ๆ เมืองเชียงคาน พร้อมกับดูแข่งเรือเทศกาลออกพรรษา ครับ...
   ตามประวัติศาสตร์ที่เล่าสืบต่อกันมา เมืองเชียงคานเดิมตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตั้งโดย ขุนคาน โอรสของ ขุนคัว เจ้าเมืองแห่งอาณาจักรล้านช้าง ถือว่าเชียงคานเป็นเมืองหน้า่ด่านของหลวงพระบาง ต่อมาอาณาจักรล้านช้างแบ่งออกเป็นอาณาจักรหลวงพระบาง และอาณาจักรเวียงจันทร์ เมืองหลวงพระบางได้สร้างเมืองหน้าด่านใหม่ที่เมืองปากเหือง แทนเมืองเชียงคาน(สานะคาม)เดิม...
(คลิกบนภาพเพื่อดูภาพขยายใหญ่ขึ้น)

....ถึงเชียงคานแต่เช้ามืด.....
...หลังจากใส่บาตรแล้ว...สาย สาย ก็ใช้จักรยาน..ชมเมืองเชียงคาน...ครับ..
....เริ่มจากทางด้านตะวันออก เลาะริมโขง ไปสุดทางที่แก่งคุดคู้....
..ไหว้ศาลเสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่สถานีเรือเชียงคาน..
......บนเส้นทางนี้ถือโอกาสไปไหว้พระสองวัดคือ วัดเชียงคาน และวัดท่าแขก..
...สุดเส้นทางนี้คือ แก่งคุดคู้ ....
.. หลังจากกลับจากแก่งคุดคู้  ช่วงบ่ายจะแวะไหว้พระตามวัดในคุ้มต่าง ๆ ของเชียงคาน ครับ..
เริ่มจากคุ้มวัดท่าคก..อยู่ติดริมฝั่งโขงบนถนนคนเดิน  ใกล้ท่าเรือข้ามไปลาว..
จากนั้นไปที่ วัดป่าใต้ ...
วัดมหาธาตุ อยู่คนละฟากถนนกับวัดป่าใต้
วัดป่ากลาง ...ใกล้กับวัดมหาธาตุ
...วัดศรีคูณเมือง อยู่ติดริมฝั่งโขง บนถนนคนเดิน..
..เลยต่อจากวัดศรีคูณเมืองไป...เป็นวัดโพนชัย..
ยังเหลืออีกสองวัดอยู่ด้านบนห่างจากริมโขงคือวัด ศรีพนมมาศ และวัดสันติวนาราม..
...วันแรกเราใช้จักรยาน...ระยะทางไม่ไกลมากนัก..แบบ สบาย สบาย ครับ...พรุ่งนี้เราจะข้ามฝั่งไปชมเมืองเชียงคานเก่า...ครับ...
...ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ...

เลยไป...ลาว (คลิก)

ทะเลหมอกที่ภูทอก (คลิก)